Saturday, July 31, 2010

นกพงคิ้วดำ

The Black-browed Reed-warbler (Acrocephalus bistrigiceps) is a species of marsh-warbler (family Acrocephalidae). It was formerly included in the "Old World warbler" assemblage. It is found in Cambodia, China, Hong Kong, India, Indonesia, Japan, North Korea, South Korea, Laos, Malaysia, Mongolia, Myanmar, Nepal, Philippines, Russia, Singapore, Taiwan, Thailand, and Vietnam.
The Black-browed Reed-warbler is similar and closely related to the more common and widespread Reed Warbler. The bird spends its time foraging close to the ground inside undisturbed reed beds. Like many other wetland birds, it is of conservation concern owing to habitat loss-destruction of native marsh vegetation and its replacement by rice paddies and fishponds

Monday, July 26, 2010

นกยางเปีย

วันนี้ไปวิ่งตอนเช้าที่พุทธมณฑล เห็นนกยางเยอะมากเลยหยุดถ่ายรูปมา ปกติไม่ค่อยเห็นนกยางอยู่รวมกัยเป็นกลุ่มอย่างนี้มากนัก วันนี้ถือว่าโชคดี

Saturday, July 17, 2010

นกยางเปีย

นกยางเปีย
Little Egret
ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Egretta garzetta
ลักษณะทั่วไป เป็นนกขนาดกลาง ความยาวลำตัวประมาณ 60 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกัน สีขาวตลอดตัวตาดำ ปากดำ ขาดำ นิ้วเท้าเหลือง แต่เล็บดำ ตัวเล็กกว่านกยางโทนมาก ในฤดูผสมพันธุ์จะมีขนยาวห้อยจากท้ายทอยคล้ายหางเปีย 2 เส้น ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร จึงได้ชื่อว่า นกยางเปีย


ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในอินเดีย หมู่เกาะอันดามัน เกาะนิโคบาร์ จีน ไหหลำ ไต้หวัน ซุนดาส์ กัมพูชา ลาว เวียดนาม ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศไทยพบว่าเป็นนกประจำถิ่นภาคกลางและจะอพยพไปทั่วทุกภาค
นกยางเปียกินปลา กบ เขียด กุ้ง หอย แมลงต่าง ๆ สัตว์เลื้อยคลานเล็ก ๆ

พฤติกรรม, การสืบพันธุ์
ชอบอยู่เป็นฝูงตามทุ่งนา ทุ่งหญ้า ชายเลน บริเวณที่น้ำท่วมถึง ตามบริเวณริมหนองบึง สามารถเกาะกิ่งไม้ได้ และบินได้ดี ขณะบินขาเหยียดตรงไปข้างหลัง คองอพับเป็นรูปตัว S มักหากินรวมกันเป็นฝูงรวมกับนกชนิดอื่นๆ เวลาหากินในน้ำจะยืนนิ่งในน้ำที่ลึกไม่เกินแข้ง เมื่อพบเหยื่อก็จะใช้ปากงับเหยื่ออย่างรวดเร็ว หรืออาจใช้วิธีเดินตามหรือเกาะหลังวัว ควาย เมื่อแมลงบินขึ้นมาก็จะใช้ปากจิกกิน
นกยางเปียเริ่มผสมพันธุ์ประมาณต้นฝน ก่อนสร้างรังจะเกี้ยวพาราสีกัน แล้วนกตัวผู้จะนำวัสดุพวกกิ่งไม้มาส่งให้ตัวเมียแล้วช่วยกันสร้างรังบนกิ่งไม้รวมกับนกอีกหลายชนิด วางไข่ครั้งละ 4-5 ฟอง ไข่มีสีเขียวน้ำทะเล ทั้งตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันฟักไข่ตั้งแต่ออกไข่ฟองแรก ใช้เวลาฟักประมาณ 25 - 27 วัน

สถานภาพปัจจุบัน
เป็นนกประจำถิ่น และมีบางส่วนเป็นนกอพยพมาช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์ พบบ่อยและมีทั่วทุกภาค จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535

Friday, July 16, 2010

นกกระยางควาย

นกยางควาย (Cattle Egret) : Bubulcus ibis
ลักษณะ
มีขนาดเล็ก หนังที่หน้าเหลืองคล้ำ ปากเหลืองหนาและสั้น หัวโต คอหนาและสั้น ขนค่อนข้างสั้นสีเทาคล้ำ ฤดูผสมพันธุ์ปากมีสีเหลืองหรือชมพูสด หัว คอ อกและหลังมีสีน้ำตาลแกมส้มสดใส ขนบริเวณท้ายทอย ขนเจ้าชู้ที่อกยาวมากขึ้น เสียงร้อง “กริ๊ก
อุปนิสัย
ชอบอาศัยบริเวณ หนอง บึงและน้ำตื้นๆ อยู่รวมกันเป็นฝูง มักออกหากินปะปนกับฝูงควาย บางครั้งขึ้นไปเกาะบนหลังควาย จึงเรียกว่า นกยางควาย เป็นนกค่อนข้างเชื่องไม่ค่อยกลัวคน
การสืบพันธุ์
ผสมพันธุ์ในช่วงเดือนตุลาคม ทำรังอยู่รวมกันบนต้นไม้ อยู่รวมกันกับนกชนิดอื่นๆ วางไข่ครั้งละ 3-5ฟอง
การแพร่กระจาย
พบในทวีปเอเชีย อินเดีย จีน ใต้หวัน ฟิลิปินส์ อินโดจีน และทั่วทุกภาคของประเทศไทย

นกกางเขนบ้าน

นกกางเขน (Copsychus saularis) เป็นนกชนิดหนึ่งที่กินแมลง มีขนาดไม่ใหญ่นัก ยาวประมาณ 25 เซนติเมตร ส่วนบนลำตัวสีดำ ส่วนล่างตั้งแต่หน้าอกลงไปจะเป็นสีขาวหม่น ใต้หางมีสีขาว ปีกมีลายพาดสีขาว ตัวเมียสีจะชัดกว่าตัวผู้ ส่วนที่เป็นสีดำในตัวผู้ ในตัวเมียจะเป็นสีเทาแก่ มันมักจะอยู่เป็นกลุ่มเล็ก ๆ หากินแมลงตามพุ่มไม้ บางครั้งก็โฉบจับแมลงกลางอากาศ หางของมันมักกระดกขึ้นลง ร้องเสียงสูงบ้าง ต่ำบ้าง ฟังไพเราะ ทำรังตามโพรงไม้ที่ไม่สูงนัก มันจะวางไข่ครั้งละ 3-6 ฟองและผลัดกันกกไข่ มันจะฟักไข่นานประมาณ 12 วัน อายุ 15 วัน แล้วจะเริ่มหัดบิน พบทั่วไปในทุกภาคแม้ในเมืองใหญ่ ๆ

นกกางเขนในไทย มี 2 ชนิด คือ นกกางเขนบ้าน และนกกางเขนดง ขนาดและสีต่างกันเล็กน้อย มักเรียกนกกางเขนบ้านว่า นกกางเขน

Pied fantail


Pied fantail
Originally uploaded by Californian Em
เมื่อได้เห็นนกอีแพรดแถบอกดำเป็นครั้งแรก หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นนกกางเขนบ้าน สาเหตุเพราะว่านกทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะ ท่าทาง สีสัน ใกล้เคียงกัน นอกจากนั้นยังมีถิ่นอาศัยและหากินอยู่บริเวณเดียวกัน อีกด้วย


นกอีแพรดแถบอกดำ (Pied fantail) เป็นนกขนาดเล็ก ลำตัวยาว ประมาณ 18 เซนติเมตร สีตัวส่วนใหญ่เมื่อมองในระยะไกลจะ เห็นเป็นสีขาวสลับดำเช่นเดียวกับนกกางเขนบ้าน แต่เมื่อดูให้ละเอียดแล้วจะเห็นว่าแตกต่างกัน นกอีแพรดจะมีสีตัวด้านบนเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตลอด หัวถึงหาง ยกเว้นคิ้วและขนปลายหางซึ่งขลิบด้วยสีขาว ด้านท้องเป็นสีขาว มีแถบสีดำขนาดใหญ่คาดใต้อก เป็นนกประจำถิ่นที่พบได้บ่อยมากทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังเป็นนกที่พบได้ในประเทศพม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สุมาตรา ชวา บอร์เนียว บาหลีและฟิลิปปินส์


นกอีแพรดเป็นนกที่ชอบอาศัยอยู่ตามสนามหญ้าในบริเวณบ้านเรือน และบริเวณใกล้เคียง ตามแหล่งชุมชนและตามสวนสาธารณะ เป็นนกที่ขยัน มาก จะได้ยินเสียงร้องสดใสตั้งแต่เช้าตรู่ บางครั้งร้องรับกันเป็นคู่ๆ เป็นเวลา นานๆ ช่วยให้บรรยากาศตอนเช้าสดใสขึ้นมาก นกอีแพรดจะออกหากิน ตั้งแต่เช้า หากินอยู่ตามสนามหญ้าและในพุ่มไม้ทั้งในระดับกลางและ ระดับล่าง นานๆ ครั้งจึงจะบินออกมาโฉบแมลงในอากาศสักครั้งหนึ่ง การบิน ของนกอีแพรดเป็นไปอย่างสวยงามมาก ดูตัวเบาและพริ้วไหวเหมือน ใบไม้ที่กำลังร่วงและปลิวไปในอากาศ ขณะที่กำลังหากินอยู่บนสนามหญ้า หรืออยู่ในระหว่างพุ่มไม้นั้น มันจะไม่หยุดนิ่ง จะขยับปีก ขยับตัว กระโดด หมุนตัวและส่ายหัวอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็จะแพนหางโดยการ คลี่ออกและหุบเข้าอย่างรวดเร็วจนแทบดูไม่ทัน มองเห็นแต่แถบขาวที่ ปลายหาง ซึ่งคลี่ออกและหุบเข้าคล้ายพัดดูเป็นที่สวยงามเหมือนตุ๊กตา นกเต้นระบำอยู่บนสนามหญ้า


นกอีแพรดเป็นนกที่กินแมลงเป็นอาหาร ชอบออกหากินในตอนเช้า และตอนเย็นอยู่ตามสนามหญ้าและตามพุ่มไม้ พบหากินอยู่ตัวเดียวหรือ เป็นคู่ เป็นนกที่มีความคุ้นเคยกับมนุษย์มาก จะปรากฏตัวให้เห็นอยู่เสมอ เป็นเวลานานๆ แม้จะเดินเข้าไปใกล้ในระยะหนึ่งก็จะไม่ตกใจบินหนีไป ตอน กลางวันแดดร้อนจัดจะเข้าไปพักผ่อนหรือหากินอยู่ตามพุ่มไม้ บางวันจะ ลงมาอาบน้ำในอ่างเช่นเดียวกับนกกางเขนบ้านและนกกระจอกบ้าน


เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม นกก็จะ เริ่มจับคู่เพื่อการผสมพันธุ์ ในช่วงนี้จะพบนกนี้อยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ และบินตาม กันไปตลอดเวลา มันจะสร้างรังอยู่ตามง่ามของกิ่งไม้โล่งๆ ที่อยู่ไม่สูงมากนัก สูงจากพื้นดินประมาณ 1-2 เมตร รังมีลักษณะเป็นรูปกรวยเล็กๆ ทำด้วย ใบหญ้าและใยพืชพันด้วยใยแมงมุมโดยรอบเพื่อให้รังหนาแน่น วางไข่ครั้งละ 2 ฟอง ไข่เป็นสีครีมมีจุดสีเทาและสีน้ำตาลอยู่ทั่วไป ทั้งพ่อและแม่นกจะ ชวนกันกกไข่และเลี้ยงลูก โดยใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 12-13 วัน ในระยะกกไข่และเลี้ยงลูกนี้พ่อและแม่นกจะหวงรังมาก ถ้ามีมนุษย์หรือสัตว์อื่น เข้ามามันจะเข้ามาจิกตีขับไล่ไปให้พ้นรังของมัน